กายภาพบำบัดคืออะไร ช่วยรักษาโรคใดได้บ้าง


27/Feb/2025
27/Feb/2025 12:00 PM

กายภาพบำบัด คืออะไร

Physical therapy (PT) หรือการกายภาพบำบัด คือ รูปแบบหนึ่งในการฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย พร้อมพยายามส่งเสริมการใช้งานอวัยวะต่าง ๆ ด้วยลักษณะของการนวด ดึง ประคบ และท่าบริหารเฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการของโรคแตกต่างกันออกไป เช่น อาการปวด, บาดเจ็บจากการใช้ชีวิตทั่วไป, ผลข้างเคียงจากการรักษา หรือโรคบางชนิด ซึ่งนักกายภาพบำบัดต้องปฏิบัติตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ในภาคของสรีระศาสตร์ เพื่อให้มั่นใจว่าหลังดำเนินการแล้วจะไม่เกิดปัญหาแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาภายหลัง

ทั้งนี้อย่างที่กล่าวไปว่าประเภทของการทำกายภาพบำบัดก็มีด้วยกันหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับปัญหาของผู้ป่วยที่พบเจอ มากไปกว่านั้นบางท่าทางยังต้องมีอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาน่าพึงพอใจ รวมถึงจุดประสงค์ในการรักษาก็แตกต่างตามลักษณะอาการด้วยเช่นกัน


การกายภาพบำบัด ช่วยรักษาโรคอะไรบ้าง

หากมองในภาพรวมเวลาใครก็ตามนึกถึงคลินิกกายภาพบำบัดก็ต้องเข้าใจตรงกันนั่นคือโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นต่าง ๆ ซึ่งถ้าให้ลองจำแนกโรคที่มักนิยมรักษาด้วยแนวทางนี้ประกอบไปด้วย


1. หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

ใครที่รู้สึกปวดหลัง ปวดเอวบางครั้งปวดร้าวลงไปยังน่อง ขา และเท้า อาจเป็นสักพักแล้วก็หาย อย่านิ่งนอนใจเพราะนั่นคือสัญญาณที่กำลังบอกว่าคุณอาจต้องรีบเข้ารับการกายภาพบำบัดหมอนรอง กระดูกทับเส้นประสาทเป็นการด่วนหรือบางคนจะเรียกกายภาพ ปวดหลัง ก็ไม่ว่ากันเพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่ร่างกายจะเกิดภาวะรุนแรงมากกว่านี้


2. ออฟฟิศซินโดรม

อาการยอดฮิตของเหล่ามนุษย์ออฟฟิศซึ่งบ่อยครั้งมักได้ยินว่าการรักษาอาการปวดคอ บ่า ไหล่ สาเหตุมาจากการทำงานหน้าคอมหรือนั่งอยู่กับที่นาน ๆ ไม่ได้ขยับตัวไปไหน กล้ามเนื้อใช้แต่ท่าเดิมเมื่อนานวันเข้าก็จะอักเสบและปวด ซึ่งใครกำลังเผชิญกับโรคออฟฟิศซินโดรม กายภาพบำบัดจึงถือเป็นอีกทางเลือกน่าสนใจ


3. เส้นเอ็นอักเสบ

ส่วนมากจะเป็นอาการที่เกิดกับนักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังกายหนักๆ แต่ไม่ได้เตรียมความพร้อมให้ดี บางรายอาจใช้แรงเยอะเกินไปจนร่างกายทนต่อไม่ไหวเกิดการเจ็บปวดได้เช่นกัน ดังนั้นการกายภาพบำบัด เส้นเอ็นอักเสบก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก


4. ไมเกรน

เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนหากรู้สึกว่าตนเองอยู่ในสภาวะเครียดจัดขอบปวดหัวข้างเดียวบ่อย ๆ อย่าปล่อยไว้เด็ดและควนใช้การกายภาพบำบัดเพื่อแก้ปวดไมเกรน


อย่างไรก็ตามก่อนเริ่มต้นรักษาควรมองหาคลินิกกายภาพบำบัดหรือหมอกายภาพบำบัดที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจ้ได้ มีประสบการณ์ยาวนานลดอันตรายและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับคุณ


ประเภทของการกายภาพบำบัด

ประเภทของการกายภาพบำบัดมีทั้งหมด 4 ประเภท ซึ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้

  • กายภาพกล้ามเนื้อ: แก้อาการปวดกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ที่มีสาเหตุมาจากการใช้กล้ามเนื้อจุดเดิม ๆ มาเป็นเวลานาน เช่น นั่งทำงาน เล่นกีฬา โดยจะเน้นกายภาพบริเวณที่กล้ามเนื้อมีการอักเสบเป็นหลัก

  • กายภาพระบบประสาท: แก้อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ ทำให้กล้ามเนื้อกลับมาแข็งแรง ฝึกการเคลื่อนไหว เช่น การนั่ง การทรงตัว และการเดิน

  • กายภาพหลอดเลือดหัวใจ: เน้นกระตุ้นให้ร่างกายมีการตอบสนอง เช่นการเดินเร็ว ช่วยลดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยใช้เทคนิคเฉพาะทางของทางคลินิก

  • กายภาพในเด็กและผู้สูงวัย: ฝึกควบคุมการเคลื่อนไหวควบคู่กับการฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เพื่อให้สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ และช่วยส่งเสริมในส่วนของพัฒนาการ


ใครบ้างที่ควรทำกายภาพบำบัด

สำหรับคนที่ควรทำกายภาพบำบัด คือ บุคคลที่มีปัญหาสุขภาพเหล่านี้

  • ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเมื่อยทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง

  • ผู้ป่วยหลังผ่าตัด เช่น หลัง สะโพก หัวเข่า รวมไปถึงการผ่าตัดบริเวณหัวใจ

  • ผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า จากการเล่นกีฬา

  • ผู้ป่วยที่เป็นเด็กและผู้สูงอายุ

  • ผู้ป่วย Stroke อัมพาต และผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง


วิธีการรักษาทางกายภาพบำบัด

วิธีการรักษาสามารถทำได้หลากหลาย และมีเป้าหมายเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย ช่วยลดความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหว ซึ่งแบ่งออกได้ 3 วิธีหลัก ๆ ได้แก่

  • กายภาพบำบัดด้วยมือ: นักกายภาพจะใช้มือในการรักษา โดยเน้นไปที่การยืดกล้ามเนื้อเพื่อลดอาการปวด และช่วยปรับการเคลื่อนไหวของร่างกายให้ดีขึ้น

  • กายภาพบำบัดด้วยการใช้เครื่องมือ: นักกายภาพที่รัชตกายา คลินิก จะใช้เครื่องมืออย่าง Shockwave, Ultrasound Therapy, Electrical Stimulation Therapy, Combination Therapy, Taping และ Hot Pack เข้ามาช่วยในการรักษาและแก้อาการได้อย่างตรงจุด

  • กายภาพแบบ Personalize Exercise: เน้นการออกกำลังกายเฉพาะบุคคล ปรับโครงสร้างของร่างกาย เพื่อให้ให้หายขาดจากอาการปวดที่กำลังเผชิญอยู่


เทคนิคที่ใช้ในการกายภาพบำบัด

เทคนิคที่ใช้ในการกายภาพบำบัด ของทางรัชตกายา คลินิก มีดังนี้

  • Rachatagaya™ Signature Manual Therapy: การทำหัตถการบำบัดโดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะมีการปรับเทคนิคตามการประเมินร่างกายของแต่ละบุคคล

  • Shockwave: การรักษาด้วยคลื่นกระแทกเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อใหม่และลดความเจ็บปวด

  • Ultrasound Therapy (US): การบำบัดด้วยคลื่นอัลตราซาวด์เพื่อลดการอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ รวมถึงช่วยคลายกล้ามเนื้อ

  • Electrical Stimulation Therapy: การบำบัดด้วยกระแสไฟฟ้าเพื่อกระตุ้นระบบประสาท ลดอาการตึงตัวของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท

  • Combination Therapy (ES+US): การบำบัดที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ร่วมกับกระแสไฟฟ้า ช่วยลดความตึงเครียดของเส้นประสาทและลดจุดกดเจ็บ

  • Taping: การใช้เทปพยุงข้อต่อเพื่อช่วยในการเคลื่อนไหวและลดอาการปวด

  • Hot Pack: การประคบร้อนเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น

  • Personalize Exercise: โปรแกรมการออกกำลังกายที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล เพื่อช่วยในการปรับโครงสร้างร่างกายและแก้ไขอาการปวดอย่างยั่งยืน


ตัวอย่างผลลัพธ์จากเคสผู้เข้ารับบริการจริง


Rachata gaya



Rachata gaya



Rachata gaya


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกายภาพบำบัด (FAQ)

กายภาพบำบัดต่างจากนวดอย่างไร?

กายภาพแตกต่างจากการนวดตรงที่ การนวดจะเน้นที่การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความตึง ใช้วิธีบีบ คลึง กดจุด ประคบร้อน เหมาะกับผู้ที่ต้องการผ่อนคลาย มีอาการปวดเล็กน้อย ส่วนกายภาพจะเน้นไปที่การวินิจฉัยปัญหาของร่างกาย แก้อาการที่เกิดขึ้นจากการบาดเจ็บ ผ่าตัด การเจ็บป่วยเรื้อรัง โดยจะใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดช่วยยืดกล้ามเนื้อ ออกกำลังกายเฉพาะส่วน อาจจะมีเลือกวิธีการนวดร่วมด้วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


ต้องมีใบส่งตัวจากแพทย์ไหม?

ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องมีใบส่งตัวจากแพทย์ ก็สามารถเข้ารับบริการในการรักษากับนักกายภาพบำบัดได้ แต่ต้องเลือกสถานบริการที่มีมีเลขทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพโดยตรง เพื่อความปลอดภัย และความเป็นมาตรฐานของคลินิกในการรักษา


เด็กทำกายภาพบำบัดได้ไหม?

สามารถทำได้กับคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงเด็กด้วย กายภาพบำบัดในเด็กมุ่งเน้นการส่งเสริมพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ฝึกการทรงตัว และช่วยให้เด็กสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด โดยมักจะใช้เทคนิคที่ผสมผสานกับการเล่นเพื่อดึงดูดความร่วมมือจากเด็ก


หากหยุดกายภาพบำบัดกลางคันจะมีผลเสียไหม?

การหยุดกายภาพบำบัดกลางคันอาจส่งผลเสียต่อการรักษาได้ เช่น อาการทรุดลง ข้อต่อยึดติด กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีภาวะแทรกซ้อน เช่น หกล้มง่าย หรือกล้ามเนื้อลีบ การทำกายภาพอย่างต่อเนื่องตามแผนการรักษาที่นักกายภาพบำบัดกำหนดจะช่วยให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว



ติดต่อจองคิวนัดหมายคลินิกกายภาพบำบัดได้ที่

Website : https://www.rachatagaya.com

Line@ : Rachatagaya Clinic

Tel : 092-862-6988



บล็อคที่เพิ่งดูไป

Contact us