กายภาพบำบัด คืออะไร
Physical therapy (PT) หรือการกายภาพบำบัด คือ รูปแบบหนึ่งในการฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย พร้อมพยายามส่งเสริมการใช้งานอวัยวะต่าง ๆ ด้วยลักษณะของการนวด ดึง ประคบ และท่าบริหารเฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการของโรคแตกต่างกันออกไป เช่น อาการปวด, บาดเจ็บจากการใช้ชีวิตทั่วไป, ผลข้างเคียงจากการรักษา หรือโรคบางชนิด ซึ่งนักกายภาพบำบัดต้องปฏิบัติตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ในภาคของสรีระศาสตร์ เพื่อให้มั่นใจว่าหลังดำเนินการแล้วจะไม่เกิดปัญหาแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาภายหลัง
ทั้งนี้อย่างที่กล่าวไปว่าประเภทของการทำกายภาพบำบัดก็มีด้วยกันหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับปัญหาของผู้ป่วยที่พบเจอ มากไปกว่านั้นบางท่าทางยังต้องมีอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาน่าพึงพอใจ รวมถึงจุดประสงค์ในการรักษาก็แตกต่างตามลักษณะอาการด้วยเช่นกัน
การกายภาพบำบัด ช่วยรักษาโรคอะไรบ้าง
หากมองในภาพรวมเวลาใครก็ตามนึกถึงคลินิกกายภาพบำบัดก็ต้องเข้าใจตรงกันนั่นคือโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นต่าง ๆ ซึ่งถ้าให้ลองจำแนกโรคที่มักนิยมรักษาด้วยแนวทางนี้ประกอบไปด้วย
1. หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
ใครที่รู้สึกปวดหลัง ปวดเอวบางครั้งปวดร้าวลงไปยังน่อง ขา และเท้า อาจเป็นสักพักแล้วก็หาย อย่านิ่งนอนใจเพราะนั่นคือสัญญาณที่กำลังบอกว่าคุณอาจต้องรีบเข้ารับการกายภาพบำบัดหมอนรอง กระดูกทับเส้นประสาทเป็นการด่วนหรือบางคนจะเรียกกายภาพ ปวดหลัง ก็ไม่ว่ากันเพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่ร่างกายจะเกิดภาวะรุนแรงมากกว่านี้
2. ออฟฟิศซินโดรม
อาการยอดฮิตของเหล่ามนุษย์ออฟฟิศซึ่งบ่อยครั้งมักได้ยินว่าการรักษาอาการปวดคอ บ่า ไหล่ สาเหตุมาจากการทำงานหน้าคอมหรือนั่งอยู่กับที่นาน ๆ ไม่ได้ขยับตัวไปไหน กล้ามเนื้อใช้แต่ท่าเดิมเมื่อนานวันเข้าก็จะอักเสบและปวด ซึ่งใครกำลังเผชิญกับโรคออฟฟิศซินโดรม กายภาพบำบัดจึงถือเป็นอีกทางเลือกน่าสนใจ
3. เส้นเอ็นอักเสบ
ส่วนมากจะเป็นอาการที่เกิดกับนักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังกายหนักๆ แต่ไม่ได้เตรียมความพร้อมให้ดี บางรายอาจใช้แรงเยอะเกินไปจนร่างกายทนต่อไม่ไหวเกิดการเจ็บปวดได้เช่นกัน ดังนั้นการกายภาพบำบัด เส้นเอ็นอักเสบก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก
4. ไมเกรน
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนหากรู้สึกว่าตนเองอยู่ในสภาวะเครียดจัดขอบปวดหัวข้างเดียวบ่อย ๆ อย่าปล่อยไว้เด็ดและควนใช้การกายภาพบำบัดเพื่อแก้ปวดไมเกรน
อย่างไรก็ตามก่อนเริ่มต้นรักษาควรมองหาคลินิกกายภาพบำบัดหรือหมอกายภาพบำบัดที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจ้ได้ มีประสบการณ์ยาวนานลดอันตรายและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับคุณ
ประเภทของการกายภาพบำบัด
ประเภทของการกายภาพบำบัดมีทั้งหมด 4 ประเภท ซึ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- กายภาพกล้ามเนื้อ: แก้อาการปวดกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ที่มีสาเหตุมาจากการใช้กล้ามเนื้อจุดเดิม ๆ มาเป็นเวลานาน เช่น นั่งทำงาน เล่นกีฬา โดยจะเน้นกายภาพบริเวณที่กล้ามเนื้อมีการอักเสบเป็นหลัก
- กายภาพระบบประสาท: แก้อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ ทำให้กล้ามเนื้อกลับมาแข็งแรง ฝึกการเคลื่อนไหว เช่น การนั่ง การทรงตัว และการเดิน
- กายภาพหลอดเลือดหัวใจ: เน้นกระตุ้นให้ร่างกายมีการตอบสนอง เช่นการเดินเร็ว ช่วยลดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยใช้เทคนิคเฉพาะทางของทางคลินิก
- กายภาพในเด็กและผู้สูงวัย: ฝึกควบคุมการเคลื่อนไหวควบคู่กับการฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เพื่อให้สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ และช่วยส่งเสริมในส่วนของพัฒนาการ
ใครบ้างที่ควรทำกายภาพบำบัด
สำหรับคนที่ควรทำกายภาพบำบัด คือ บุคคลที่มีปัญหาสุขภาพเหล่านี้
- ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเมื่อยทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง
- ผู้ป่วยหลังผ่าตัด เช่น หลัง สะโพก หัวเข่า รวมไปถึงการผ่าตัดบริเวณหัวใจ
- ผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า จากการเล่นกีฬา
- ผู้ป่วยที่เป็นเด็กและผู้สูงอายุ
- ผู้ป่วย Stroke อัมพาต และผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง
วิธีการรักษาทางกายภาพบำบัด
วิธีการรักษาสามารถทำได้หลากหลาย และมีเป้าหมายเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย ช่วยลดความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหว ซึ่งแบ่งออกได้ 3 วิธีหลัก ๆ ได้แก่
- กายภาพบำบัดด้วยมือ: นักกายภาพจะใช้มือในการรักษา โดยเน้นไปที่การยืดกล้ามเนื้อเพื่อลดอาการปวด และช่วยปรับการเคลื่อนไหวของร่างกายให้ดีขึ้น
- กายภาพบำบัดด้วยการใช้เครื่องมือ: นักกายภาพที่รัชตกายา คลินิก จะใช้เครื่องมืออย่าง Shockwave, Ultrasound Therapy, Electrical Stimulation Therapy, Combination Therapy, Taping และ Hot Pack เข้ามาช่วยในการรักษาและแก้อาการได้อย่างตรงจุด
- กายภาพแบบ Personalize Exercise: เน้นการออกกำลังกายเฉพาะบุคคล ปรับโครงสร้างของร่างกาย เพื่อให้ให้หายขาดจากอาการปวดที่กำลังเผชิญอยู่
เทคนิคที่ใช้ในการกายภาพบำบัด
เทคนิคที่ใช้ในการกายภาพบำบัด ของทางรัชตกายา คลินิก มีดังนี้
- Rachatagaya™ Signature Manual Therapy: การทำหัตถการบำบัดโดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะมีการปรับเทคนิคตามการประเมินร่างกายของแต่ละบุคคล
- Shockwave: การรักษาด้วยคลื่นกระแทกเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อใหม่และลดความเจ็บปวด
- Ultrasound Therapy (US): การบำบัดด้วยคลื่นอัลตราซาวด์เพื่อลดการอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ รวมถึงช่วยคลายกล้ามเนื้อ
- Electrical Stimulation Therapy: การบำบัดด้วยกระแสไฟฟ้าเพื่อกระตุ้นระบบประสาท ลดอาการตึงตัวของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท
- Combination Therapy (ES+US): การบำบัดที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ร่วมกับกระแสไฟฟ้า ช่วยลดความตึงเครียดของเส้นประสาทและลดจุดกดเจ็บ
- Taping: การใช้เทปพยุงข้อต่อเพื่อช่วยในการเคลื่อนไหวและลดอาการปวด
- Hot Pack: การประคบร้อนเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
- Personalize Exercise: โปรแกรมการออกกำลังกายที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล เพื่อช่วยในการปรับโครงสร้างร่างกายและแก้ไขอาการปวดอย่างยั่งยืน
ตัวอย่างผลลัพธ์จากเคสผู้เข้ารับบริการจริง



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกายภาพบำบัด (FAQ)
กายภาพบำบัดต่างจากนวดอย่างไร?
กายภาพแตกต่างจากการนวดตรงที่ การนวดจะเน้นที่การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความตึง ใช้วิธีบีบ คลึง กดจุด ประคบร้อน เหมาะกับผู้ที่ต้องการผ่อนคลาย มีอาการปวดเล็กน้อย ส่วนกายภาพจะเน้นไปที่การวินิจฉัยปัญหาของร่างกาย แก้อาการที่เกิดขึ้นจากการบาดเจ็บ ผ่าตัด การเจ็บป่วยเรื้อรัง โดยจะใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดช่วยยืดกล้ามเนื้อ ออกกำลังกายเฉพาะส่วน อาจจะมีเลือกวิธีการนวดร่วมด้วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ต้องมีใบส่งตัวจากแพทย์ไหม?
ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องมีใบส่งตัวจากแพทย์ ก็สามารถเข้ารับบริการในการรักษากับนักกายภาพบำบัดได้ แต่ต้องเลือกสถานบริการที่มีมีเลขทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพโดยตรง เพื่อความปลอดภัย และความเป็นมาตรฐานของคลินิกในการรักษา
เด็กทำกายภาพบำบัดได้ไหม?
สามารถทำได้กับคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงเด็กด้วย กายภาพบำบัดในเด็กมุ่งเน้นการส่งเสริมพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ฝึกการทรงตัว และช่วยให้เด็กสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด โดยมักจะใช้เทคนิคที่ผสมผสานกับการเล่นเพื่อดึงดูดความร่วมมือจากเด็ก
หากหยุดกายภาพบำบัดกลางคันจะมีผลเสียไหม?
การหยุดกายภาพบำบัดกลางคันอาจส่งผลเสียต่อการรักษาได้ เช่น อาการทรุดลง ข้อต่อยึดติด กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีภาวะแทรกซ้อน เช่น หกล้มง่าย หรือกล้ามเนื้อลีบ การทำกายภาพอย่างต่อเนื่องตามแผนการรักษาที่นักกายภาพบำบัดกำหนดจะช่วยให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว
ติดต่อจองคิวนัดหมายคลินิกกายภาพบำบัดได้ที่
Website : https://www.rachatagaya.com
Line@ : Rachatagaya Clinic
Tel : 092-862-6988