ไขคำตอบให้คนรักงาน ออฟฟิศซินโดรม รักษาหายไหม ดูแลยังไง?

ออฟฟิศซินโดรม รักษาหายไหม

ปัญหาปวดหัวตามมาด้วยปวดตัวของชาวออฟฟิศ เกิดมาจากการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ทำงานเป็นเวลานาน ๆ แต่นั่งผิดท่า ทำให้ปวดเนื้อเมื่อยตัวอยู่เสมอ คิดดูว่าใน 1 วันเรานั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานกว่า 8 ชั่วโมงโดยไม่ได้ขยับไปไหน รักงานเกินไปจนทำให้ปวดหัว ปวดหลัง ปวดคอบ่าไหล่ เป็นเรื้อรังจนเกิดข้อสงสัยว่าออฟฟิศซินโดรม รักษาหายไหม แล้วจะต้องรักษาอย่างไรให้เกิดผล บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบ พร้อมพาปรับพฤติกรรมเพื่อให้การรักษาออฟฟิศซินโดรมอย่างยั่งยืน

ทำไมการใช้ยาจึงไม่ใช่ทางแก้ระยะยาว?

การใช้ยาไม่ใช่ทางแก้ระยะยาวในการรักษาออฟฟิศซินโดรม นั่นเป็นเพราะการใช้ยาเป็นเพียงการแก้ที่ปลายเหตุไม่ใช่ต้นเหตุ และเป็นการบรรเทาอาการเท่านั้น โดยยาที่ใช้รักษาออฟฟิศซินโดรม เช่น ยาแก้ปวด (Painkillers) หรือยาคลายกล้ามเนื้อ (Muscle Relaxants) มีหน้าที่หลักคือการ บรรเทาอาการปวด อักเสบ หรือกล้ามเนื้อเกร็ง ในช่วงเวลานั้น ๆ ไม่ได้เข้าไปแก้สาเหตุที่แท้จริงของออฟฟิศซินโดรม และตราบใดที่ผู้ป่วยยังคงมีพฤติกรรมการทำงานแบบเดิม ๆ เช่น นั่งหลังค่อม จ้องคอมพิวเตอร์นาน ๆ ไม่ลุกเปลี่ยนอิริยาบถ เมื่อยาหมดฤทธิ์ หรือหยุดใช้ยา อาการปวดก็จะกลับมาเป็นซ้ำอีกครั้ง เพราะกล้ามเนื้อยังคงบาดเจ็บและตึงตัวจากการใช้งานซ้ำ ๆ

อีกทั้งการใช้ยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ เช่น ผลต่อตับ ไต หรือระบบทางเดินอาหารได้ การใช้ยาจึงเป็นเพียง เครื่องมือเสริม ในการช่วยบรรเทาอาการปวดเฉียบพลัน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถทำกายภาพบำบัดหรือปรับพฤติกรรมได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง

3 พฤติกรรมสำคัญที่ช่วยให้ ออฟฟิศซินโดรม รักษาหาย

3 พฤติกรรมสำคัญที่ช่วยให้ ออฟฟิศซินโดรม รักษาหาย เป็นหัวใจสำคัญของการรักษาออฟฟิศซินโดรมให้หายขาดได้อย่างแท้จริง เพราะการปรับพฤติกรรมเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่แค่ปลายเหตุ

ปรับท่านั่งและสภาพแวดล้อมในการทำงาน

ปรับท่านั่งและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เป็นการแก้ไขสาเหตุหลัก ที่ทำให้กล้ามเนื้อถูกใช้งานซ้ำ ๆ และตึงตัว การปรับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะช่วยลดภาระต่อกล้ามเนื้อและกระดูกได้ทันที

ท่านั่งที่ถูกต้อง: นั่งหลังตรงชิดพนักพิง เท้าราบกับพื้น หรือมีที่วางเท้า ข้อศอกวางได้สบาย และหัวไหล่ผ่อนคลาย
ปรับจอคอมพิวเตอร์: จอภาพควรอยู่ระดับสายตา เพื่อป้องกันการก้มคอ
พักและเปลี่ยนอิริยาบถ: ลุกขึ้นยืน เดิน หรือยืดเหยียดเบา ๆ ทุก 30-60 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อได้คลายตัวและฟื้นฟู

ออกกำลังกายและยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ

พฤติกรรมนี้เป็นการสร้าง ความแข็งแกร่ง และความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย เพื่อให้ทนทานต่อการทำงานได้ดีขึ้น

การยืดเหยียด (Stretching): เน้นยืดกล้ามเนื้อที่ตึงตัวเป็นประจำ เช่น คอ บ่า ไหล่ และหลัง เพื่อคลายปมกล้ามเนื้อ และช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
การเสริมสร้างความแข็งแรง (Strengthening): ออกกำลังกายเพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscles) ซึ่งทำหน้าที่พยุงกระดูกสันหลัง จะช่วยให้คุณสามารถนั่งในท่าที่ถูกต้องได้นานขึ้นโดยไม่ปวดเมื่อยง่าย

การพักผ่อนที่เพียงพอและมีคุณภาพ

ร่างกายต้องการเวลาในการซ่อมแซมและฟื้นฟู ส่วนที่สึกหรอ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อและระบบประสาท

นอนหลับอย่างเพียงพอ: การนอนหลับลึกที่มีคุณภาพจะช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการซ่อมแซม
การจัดการความเครียด: ความเครียดมักทำให้เราเกร็งไหล่และคอโดยไม่รู้ตัว การหาวิธีผ่อนคลาย เช่น การหายใจเข้า-ออกลึก ๆ การทำสมาธิ หรือกิจกรรมที่ชอบ จะช่วยลดความตึงเครียดสะสมได้

รักษาออฟฟิศซินโดรม Rachatagaya Clinic

รักษาออฟฟิศซินโดรม ที่ Rachatagaya Clinic

รัชตกายา คลินิกกายภาพบำบัด (Rachatagaya Clinic) มีหลายสาขาในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งเชี่ยวชาญในการรักษาอาการปวดและออฟฟิศซินโดรม โดยใช้วิธีทางกายภาพบำบัดเป็นหลัก ารใช้ยาเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่หากคุณต้องการ จบปัญหาออฟฟิศซินโดรมอย่างยั่งยืนต้องมาที่ Rachatagaya Clinic โดยทางคลีนิกมุ่งเน้นการรักษาแบบองค์รวมที่แก้ไขที่ต้นเหตุ โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้คุณกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ