โรคปวดหลังเรื้อรัง คือ หนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในสมัยปัจจุบัน โดยหลายคนเป็นโรคนี้จากการทำงานหนักหรือใช้กล้ามเนื้อหลังมากเกินไป และหลายคนก็อาจเผชิญกับปัญหาสุขภาพ เช่น การปวดหลัง หรือปวดเอวนี้ได้ จากการนั่งนิ่ง ๆ เป็นเวลานานเช่นกัน อาการดังกล่าวนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความเจ็บปวดชั่วครู่ แต่ยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานของผู้ป่วยอย่างมากด้วย หากใครกำลังมองหาวิธีแก้อาการเหล่านี้ให้หายขาด รัชตกายา ขอนำเสนอการทำกายภาพบำบัดที่จะช่วยบรรเทาและรักษาอาการปวดหลังเรื้อรังนี้ พร้อมแนะนำบริการคุณภาพดี ราคาเหมาะสมที่ตอบโจทย์ชาวปวดหลังทุกท่าน
การปวดหลังเรื้อรังเกิดจากอาการอักเสบหรือความเครียดในกล้ามเนื้อหลัง ส่วนใหญ่เกิดจากการทำงานหนักที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหลังอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น ยกของหนัก ทำงานในท่าทางไม่ถูกต้อง หรือทำงานเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่มีการพักผ่อนที่เพียงพอ นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดโรคปวดหลังเรื้อรังได้ เช่น รูปแบบการนอนไม่ถูกต้อง น้ำหนักตัวที่มากเกินไป การนั่งทำงานในท่าทางไม่ถูกต้อง การเคลื่อนไหวไม่เพียงพอ และปัจจัยทางจิตเวชเช่น ความเครียด ซึมเศร้า และความกังวล ก็สามารถส่งผลต่อการเกิดอาการปวดหลังเรื้อรังได้
อาการของการปวดหลังเรื้อรังอาจแย่ลงเมื่อใช้ท่าทางการนั่งหรือยืนนาน ๆ และมักเป็นแบบเรื้อรังหรือปวดเป็นระยะเวลานาน เป็นทุกวันหรือบ่อยครั้ง เนื่องจากอาการปวดหลังนี้สามารถกระทบต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยง่าย หรือหงุดหงิดได้ง่าย อาจมีอาการปวดแขนหรือขาบ้าง และเมื่อมีการอักเสบของเส้นประสาทส่วนกลางจะมีอาการชาเกิดขึ้นได้เช่นกัน
การรักษาโรคปวดหลัง ปวดเอวเรื้อรังสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ ในกรณีที่อาการเป็นไม่มาก อาจใช้วิธีการรักษาเบื้องต้นที่เป็นกลไกการรักษาการหลั่งสารในร่างกาย เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ หรือ การใช้ผ้าพยุงหลัง (Back support) การใช้รองเท้าที่เหมาะสม และการดูแลตนเองในเรื่องของการออกกำลังกาย และการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน
ในกรณีที่อาการรุนแรงและเป็นประจำ อาจต้องใช้การรักษาแบบอื่น เช่น การฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังด้วยการออกกำลังกาย การฟื้นฟูศักยภาพกล้ามเนื้อด้วยการได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และการเสริมด้วยการรักษาทางกายภาพบําบัด ออฟฟิศซินโดรมสำหรับการป้องกันโรคปวดหลังเรื้อรัง สิ่งที่สำคัญคือการรักษาระดับความเครียดในชีวิตประจำวัน การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและสำคัญที่สุดคือการออกกำลังกาย ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
โรคปวดหลังเรื้อรังเป็นภาวะที่สามารถป้องกันและรักษาได้สำเร็จ หากผู้ป่วยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของตนเอง และรับการรักษาที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยในขั้นตอนต่าง ๆ ที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อและระบบประสาทให้แข็งแรง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคปวดหลังเรื้อรังในอนาคต
สาเหตุของโรคปวดหลังเรื้อรังมีอยู่มากมาย ดังนี้
การทำงานหนักในที่นี้ หมายถึงการทำงานที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหลังอย่างต่อเนื่องหรือใช้แรงงานมากเกินไป เช่น ยกของหนักโดยไม่ใช้วิธีที่ถูกต้อง หรือทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้กล้ามเนื้อหลังถูกใช้งานอย่างเกินความจำเป็น และเกิดการอักเสบได้
พฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องในการทำงาน เช่น การนั่งหรือยืนนาน ๆ โดยไม่มีการพักผ่อนที่เพียงพอ อาจทำให้กล้ามเนื้อหลังเสื่อมสภาพและเกิดอาการปวดได้เช่นกัน
หากคุณไม่ได้รักษาระดับความเคลื่อนไหวของร่างกายให้เพียงพอ กล้ามเนื้อหลังอาจอ่อนแรงและไม่สามารถรับน้ำหนักหรือแรงต่าง ๆ ได้ ทำให้เกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น
รูปแบบการนอนไม่ถูกต้อง เช่น การนอนในท่าทางที่ไม่สมดุล หรือท่าทางการนอนที่ส่งผลต่อโพรงประสาทของกล้ามเนื้อหลัง อาจทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกต้องขณะหลับ และเกิดการเอนเป็นเวลานาน ซึ่งอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อหลังอักเสบและปวดได้
ปัจจัยทางจิตวิทยาทั้งความเครียด ซึมเศร้า และความกังวลเป็นตัวแปรที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคปวดหลังเรื้อรังได้ ซึ่งสภาวะทางจิตเวชเหล่านี้อาจกระทบต่อการกระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อหลัง
ปัจจัยที่มีผลจากสภาพแวดล้อม เช่น การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม อย่างการใช้โต๊ะทำงานที่ไม่เหมาะสม หรือเก้าอี้ที่ไม่รองรับร่างกายอย่างเพียงพอ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบในกล้ามเนื้อหลังได้
การเข้าใจสาเหตุที่เป็นต้นเหตุของโรคปวดหลังเรื้อรังสำคัญในการวินิจฉัยและรักษาโรค ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดข้างต้นจะช่วยให้เราเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ในการจัดการกับโรคปวดหลัง ปวดเอวเรื้อรังให้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยการรักษาโรคปวดหลังเรื้อรังด้วยกายภาพบำบัดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการและเพิ่มฟังก์ชันการทำงานของกล้ามเนื้อหลัง
วิธีการวินิจฉัยอาการปวดหลัง ต้องทำอย่างละเอียดแม่นยำเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลที่สุด โดยที่รัชตกายา เราใช้วิธีการตรวจประเมินที่ละเอียด ทันสมัยและแม่นยำ เช่น
● การตรวจประเมินตามไลน์กล้ามเนื้อ : นักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญของเราจะทำการตรวจสอบการเคลื่อนไหว ความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยไม่ใช่แค่บริเวณที่ปวด แต่เป็นกล้ามเนื้อที่ทำงานเกี่ยวโยงกัน
● เครื่อง 3D Posture Analysis : เรามีเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ท่าทางและความสมดุลของร่างกาย เพื่อระบุปัญหาที่เป็นสาเหตุของอาการปวดต่าง ๆ เป็นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับนักกายภาพบำบัดเพื่อวางแผนการรักษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
● การซักประวัติสุขภาพ : เพื่อเข้าใจประวัติการบาดเจ็บหรืออาการปวดที่ผ่านมา รวมถึงลักษณะการใช้ชีวิตที่อาจมีผลต่อสุขภาพของคุณ เรามีคำถามที่ออกแบบเฉพาะ รวมถึงมีเซสชั่นการรับฟังและการสอบถามรูปแบบพิเศษเพื่อเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างลึกซึ้ง
โปรไฟล์แพทย์ กายภาพบำบัด ปวดหลังหายได้แน่นอน เพราะทีมงานของเราประกอบด้วยนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์และมีใบประกอบวิชาชีพด้านกายภาพบำบัด รวมถึงการฝึกฝนพิเศษในรัชตกายา ร่วมด้วยเทคนิคเฉพาะของเรา ทำให้พวกเราเชี่ยวชาญในการรักษาอาการปวดโดยเฉพาะ และมากกว่าอาการปวดดีขึ้นคือร่างกายที่สมดุล ไม่กลับมาปวดอีก
● ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน : ทุกคนมีความรู้ความสามารถในเทคนิคการรักษาที่หลากหลาย และสามารถออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
● การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง : ทีมงานของเรามีการอัปเดตความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้คุณได้รับการรักษาที่ดีที่สุด
วิธีการรักษาอาการปวดหลังที่รัชตกายา เรามีขั้นตอนการรักษาดังต่อไปนี้
● การประเมินและวินิจฉัย : การเริ่มต้นด้วยการประเมินและวินิจฉัยปัญหาทางกายภาพ ซึ่งสามารถทำได้โดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด ปวดหลังเรื้อรัง โดยการสำรวจอาการปวด การตรวจสอบความเคลื่อนไหว และประเมินภาพรวมของร่างกาย
● การออกกำลังกายและการยืดกล้ามเนื้อ : ผู้ป่วยอาจต้องทำกิจกรรมการออกกำลังกายและการยืดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัง อาจมีการใช้ท่าทางการยืดกล้ามเนื้อฉพาะ หรือออกกำลังกายโดยกายภาพบําบัด ออฟฟิศซินโดรมที่เน้นการยืดกล้ามเนื้อหลัง
● การกายภาพบำบัดแบบแรงต้าน : การใช้แรงต้านเพื่อฝึกกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรงและยืดหยุ่น โดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ
● การฟื้นฟูศักยภาพและความสามารถในการทำงาน : การฝึกซ้อมและการทำกิจกรรมที่เน้นความสามารถในการทำงานและฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อหลังให้กลับสู่ระดับปกติ ซึ่งอาจรวมถึงการทำงานในภาวะทางการทำงานจริง เพื่อป้องกันการกลับมาเกิดอีกครั้ง
● การให้คำแนะนำและการศึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของกล้ามเนื้อหลัง : การให้คำแนะนำเกี่ยวกับท่าทางที่ถูกต้องในการทำงาน การยกของ การนั่งหรือยืน รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องที่อาจเป็นสาเหตุของปัญหา
● การวิเคราะห์และปรับท่าทางการทำงาน : ผู้ป่วยอาจต้องปรับเปลี่ยนท่าทางการทำงาน เช่น การปรับความสูงของโต๊ะทำงาน การปรับที่นั่งให้รองรับร่างกาย หรือการเปลี่ยนแปลงท่าทางในการยกของ เพื่อลดการเอนหลังและการกดทับในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
● การรักษาโดยเครื่องมือทางกายภาพบำบัด : เครื่องอัลตราซาวด์ (คลื่นร้อนความลึก) กระตุ้นเลือดให้มาเลี้ยงบริเวณที่มีจุดกดเจ็บ และตึงตัวมากเกินไป ทำให้เลือดกลับมาเลี้ยงบริเวณที่ปวดมากขึ้น เป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อคลายตัว คนไข้จึงรู้สึกโล่งขึ้น
เครื่อง ES (electrical stimulator) เป็นเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า ที่จะส่งกระแสไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นเส้นใยกล้ามเนื้อและเส้นประสาทขนาดใหญ่ ทั้งยังยับยั้งการส่งกระแสประสาทความเจ็บปวดจากเส้นประสาทขนาดเล็ก ไม่ให้ส่งกระแสประสาทจากบริเวณที่เจ็บปวดไปสู่สมอง และยังช่วยกระตุ้นเส้นใยประสาทที่รับความเจ็บปวดให้หลั่งสาร เอ็นเคฟาลิน (enkephalin) ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายมอร์ฟีน ที่ช่วยลดการเจ็บปวด รวมถึงกระตุ้นสารลดความเจ็บปวด เอ็นโดฟิน (endorphin) จึงสามารถลดปวดได้
ขณะที่เครื่อง Shock wave (คลื่นกระแทก) จะกระตุ้นการบาดเจ็บเพื่อสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้ลดอาการปวด โดยวิธีการลดสารสื่อประสาทที่ส่งสัญญาณปวดและกระตุ้นการลดปวดในกล้ามเนื้อ (re-injury) จึงจะเห็นผลหลังการรักษาทันที
การรักษาโรคปวดหลังเรื้อรังด้วยกายภาพบําบัดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการปวด ลดอาการเสียดสีและการกดทับเส้นประสาท และเพิ่มฟังก์ชันการทำงานของกล้ามเนื้อหลัง อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสมควรพิจารณาโดยดูจากความรุนแรงของอาการ และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุดในการรักษาโรคปวดหลังเรื้อรัง
ประโยชน์ของกายภาพบำบัดในการรักษาปวดหลังมีอะไรบ้าง สามารถดูได้ดังต่อไปนี้
● กายภาพบำบัดสามารถช่วยลดความเจ็บปวดและการอักเสบของกล้ามเนื้อและข้อต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เทคนิคที่เหมาะสม
● เพิ่มความยืดหยุ่นและระยะการเคลื่อนไหว ทำให้คุณสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้อย่างเต็มที่
● การออกกำลังกายเฉพาะจุดช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่อ่อนแอ ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บในอนาคต
เทคนิค กายภาพบำบัด ปวดหลังเรื้อรังหายขาดได้ด้วยเทคนิคการรักษาที่หลากหลายและทันสมัย เพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
“เราฟังและได้ยินร่างกายของคุณ”
แม้จะปวดที่เดียวกัน อาการคล้ายกัน แต่สาเหตุที่ปวดของคนสองคนอาจไม่เหมือนกัน ที่รัชตกายาเราให้ความสำคัญกับการวินิจฉัยไปถึงต้นเหตุจริง ๆ ด้วยการพูดคุยกับคนไข้ สอบถามพฤติกรรม ตรวจสอบท่าทาง กำลังกล้ามเนื้อแต่ละจุด วิเคราะห์อาการตามความเชื่อมโยงและสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อ ข้อต่อ กระดูกทั่วร่างกาย เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาในครั้งนั้นและครั้งถัดไป
“เลือกชนิดของเครื่องมือที่ทันสมัยที่เหมาะกับคุณ”
ที่รัชตกายา เรามีเครื่องมือทางกายภาพบำบัดที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หลากหลายเพื่อลดอาการปวด เช่น คลื่นอัลตราซาวด์ การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า และคลื่นช็อกเวฟ โดยนักกายภาพของเราจะเลือกประเภท ความเข้มข้น และระยะเวลาในการใช้เครื่องมือตามอาการของแต่ละคน
“ให้ร่างกายของคุณมาเจอกับความเชี่ยวชาญของเรา”
เรามอบประสบการณ์และประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการรักษาด้วยการใช้เครื่องมือควบคู่กับการทำหัตถการที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา นักกายภาพบำบัดที่รัชตกายา ได้รับการอบรมและฝึกฝนมาเป็นพิเศษให้เน้นเทคนิคการใช้หัตถการหลากหลายเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่รัดแน่น และจุดกดเจ็บ โดยการกด ดัด ดึง รีด ขยับข้อต่อ
“กลับมาเคลื่อนไหวได้เหมือนเดิมอีกครั้ง ที่รัชตกายา”
เราเชื่อว่าการออกกำลังกายเป็นวิธีการรักษาที่สำคัญที่สุดทางกายภาพบำบัด ที่จะทำให้อาการปวดต่าง ๆ ไม่กลับมาเป็นอีก ดังนั้นรัชตกายาจึงเน้นการสอนท่าออกกำลังกายพิเศษ ที่ออกแบบมาให้เฉพาะบุคคล ให้บริหารทั้งที่คลินิกและกลับไปทำที่บ้านได้สะดวก เพื่อให้ร่างกายกลับมาเคลื่อนไหวได้เต็มระยะ หายจากอาการปวดได้อย่างยั่งยืน
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกคลินิกกายภาพบำบัด ปวดหลังอยากรีบรักษาอย่างไร ก็ต้องใส่ใจพิจารณาดูข้อคำนึงเหล่านี้ก่อน เพื่อรับประสิทธิภาพการรักษาสูงสุด
ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของนักกายภาพบำบัด คือ ปัจจัยแรกที่ต้องพิจารณาโดยต้องตรวจสอบว่าทีมงานผู้ให้บริการมีการรับรองและประสบการณ์ในการรักษาอาการปวดหรือไม่ และอาจดูรีวิวของคลินิกเพื่อประกอบการตัดสินใจร่วมด้วย
คลินิกควรมีการใช้ เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยเข้ามาประกอบ แต่ไม่ได้พึ่งพาเทคโนโลยีเป็นหลัก และอุปกรณ์การรักษาควรได้รับการบำรุงรักษาและอัปเดตอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ใช้งานได้ปลอดภัยที่สุด
คลินิกควรให้ความสำคัญกับการดูแลเฉพาะบุคคลผ่านการประเมินและออกแบบแผนการรักษาที่ตรงกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละท่าน รวมถึงตัวนักกายภาพบำบัดก็ควรให้คำปรึกษาและติดตามผลอย่างใกล้ชิด
บรรยากาศและสถานที่ของคลินิกควรเป็นสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัย และเป็นมิตรจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย ร่วมด้วยใช้การตกแต่งที่ดี สามารถส่งเสริมการฟื้นฟูได้
ความสะดวกสบายและการเข้าถึงคลินิก ทั้งในแง่ของสถานที่และการให้บริการ คือ ตำแหน่งที่ตั้งของคลินิกควรสะดวกต่อการเดินทาง และควรมีระบบการนัดหมายที่ง่าย ยืดหยุ่นได้ตามความต้องการของผู้ป่วย
รัชตกายา คลีนิก กายภาพบำบัด ปวดหลัง ที่เชื่อถือได้ ด้วยจุดแข็งมากมายได้แก่
● การตรวจประเมินตามไลน์กล้ามเนื้อ : นักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญของเราจะทำการตรวจสอบการเคลื่อนไหว ความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยไม่ใช่แค่บริเวณที่ปวด แต่เป็นกล้ามเนื้อที่ทำงานเกี่ยวโยงกัน
● เครื่อง 3D Posture Analysis : เรามีเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ท่าทางและความสมดุลของร่างกาย เพื่อระบุปัญหาที่เป็นสาเหตุของอาการปวดต่างๆ เป็นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับนักกายภาพบำบัดเพื่อวางแผนการรักษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
● การซักประวัติสุขภาพ : เพื่อเข้าใจประวัติการบาดเจ็บหรืออาการปวดที่ผ่านมา รวมถึงลักษณะการใช้ชีวิตที่อาจมีผลต่อสุขภาพของคุณ เรามีคำถามที่ออกแบบเฉพาะ รวมถึงมีเซสชั่นการรับฟังและการสอบถามรูปแบบพิเศษเพื่อเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างลึกซึ้ง
● การดูแลแบบองค์รวม : เราใส่ใจทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพราะเราเชื่อว่าจิตใจมีผลต่อร่างกาย เพื่อให้คุณได้รับการฟื้นฟูที่สมบูรณ์แบบ
● สาขาที่ครอบคลุม : เรามีสาขาในหลายพื้นที่ ทำให้คุณสามารถเลือกใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกายภาพบำบัดสำหรับอาการปวดหลัง เราได้รวบรวมมาให้ทุกคนเรียบร้อยแล้ว
● ลดความตึงตัวกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น
● เพิ่มระยะการเคลื่อนไหวและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ
● เสริมสร้างกล้ามเนื้อที่สนับสนุนกระดูกสันหลัง
● อาการปวดที่มีสาเหตุมาจากโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน
● อาการปวดหลังเฉียบพลันหรือเรื้อรัง
● การบาดเจ็บจากการออกกำลังกายหรืออุบัติเหตุ
● อาการปวดที่เกิดจากการนั่งหรือยืนนาน ๆ
ความถี่นั้นขึ้นอยู่กับสภาพและความรุนแรงของอาการ แต่โดยทั่วไปแล้ว การรักษา 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และในช่วงแรกจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี อย่างไรก็ดีนักกายภาพบำบัดจะปรับแผนการรักษาตามการตอบสนองของร่างกายคุณ
ถ้าอาการปวดเริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ให้รัชตกายาดูแลช่วยดูแลอาการปวดของคุณด้วยการรักษาองค์รวมเฉพาะบุคคลและการดูแลที่เชี่ยวชาญจากทีมงานรัชตกายา ให้ร่างกายคุณกลับสู่สมดุลไม่กลับมาปวด และสามารถกลับไปทำกิจกรรมที่ชอบได้อย่างเต็มที่ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ติดต่อเราเพื่อปรึกษาหรือจองคิววันนี้ได้เลย ตามช่องทางด้านล่างนี้
● โทรศัพท์: 0928626988
● เว็บไซต์: www.rachatagaya.com
● ที่ตั้งสาขา: บางนา บางแค ดอนเมือง วัชรพล ชิดลม เซ็นทรัลปิ่นเกล้า